หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ ที่มีชื่อ Digit จาก Agility Robotics กำลังทำการทดสอบในโกดังสินค้าของอเมซอนในรัฐเท็กซัส ของสหรัฐ เป็นหุ่นยนต์รูปร่างคล้ายมนุษย์ที่มีแขนและขา สามารถจับ ยก และจัดการกับพัสดุได้ไม่ต่างจากคนงาน

แม้ว่าขณะนี้ อเมซอนมีหุ่นยนต์ประมาณ 750,000 ตัวทำงานอยู่ในโรงงานต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงหุ่นยนต์ที่ถูกใช้เพื่อขนย้ายกล่องภายในโกดัง ที่สามารถบรรทุกสิ่งของที่มีน้ำหนักมากถึง 35 ปอนด์ แต่การเปลี่ยนไปใช้หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ยังถือเป็นเรื่องใหม่ ที่สร้างความกังวลต่ออนาคตของคนงานมนุษย์กว่า 1.5 ล้านคนในบริษัท

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายเทคโนโลยีของอเมซอน ระบุว่า การทดสอบหุ่นยนต์ Digit ยังอยู่ในระยะแรกเท่านั้น และพวกเขาใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ในการทำความเข้าใจ และประเมินว่าการใช้งานหุ่นยนต์ดังกล่าวมีความเหมาะสมกับกระบวนการของบริษัทหรือไม่

 

ทั้งนี้ ความสามารถเบื้องต้นของ Digit คือการทำงานของมนุษย์ได้หลายอย่าง โดยเฉพาะงานที่มีความซ้ำซาก มีความต้องการทางกายภาพ หรืองานที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์

 

แต่ Agility Robotics ไม่ใช่เจ้าเดียวที่กำลังพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ ยังมีบริษัทสตาร์ทอัพไปจนถึงบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่เข้าร่วมในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย เช่นเดียวกับเทสลาของนายอีลอน มัสก์ ซึ่งกำลังพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ชื่อว่า Optimus หลังจากที่นายมัสก์เคยออกมากล่าวว่า “สักวันหนึ่งหุ่นยนต์จะมีความสำคัญมากกว่ารถยนต์ของบริษัท”

คาดการณ์ว่าตลาดหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จะมีมูลค่าราว 150,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีทั่วโลกภายใน 15 ปี และหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จะสามารถนำไปใช้งานในโรงงานได้ระหว่างปี 2568-2571 และในงานด้านอื่นๆ ภายในปี 2573-2578

ขณะที่ อเมซอน กำลังลงทุนอย่างหนักในด้านวิทยาการหุ่นยนต์ โดยได้ประกาศกองทุน ‘นวัตกรรมอุตสาหกรรม’ มูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว แต่ยืนยันว่าหุ่นยนต์จะไม่ถูกนำมาแทนที่มนุษย์ แต่จะเป็นตำแหน่งงานที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ และจะช่วยให้พนักงานมีอิสระในการส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

Cr: https://www.bangkokbiznews.com/world/1094951 , https://unsplash.com/…/black-and-white-industrial…