นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยเดือน ส.ค.66 ที่ขยายตัว 0.88% เมื่อเทียบกับเดือน ส.ค.65 นั้น ส่งผลให้เป็นประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อต่ำที่สุดเป็นอันดับ 10 ของโลกจาก 133 เขตเศรษฐกิจที่มีการประกาศตัวเลข โดยประเทศที่ต่ำกว่าไทยในอันดับ 1-9 ได้แก่ คอสตาริกา ต่ำสุดที่ลบ 3.28% ตามด้วย ซูดานใต้ ลบ 3.1%, เซเชลส์ ลบ 2.44%, บูร์กินาฟาโซ ลบ 2.0%, อาร์เมเนีย ลบ 0.17%, จีน 0.1%, กายอานา 0.33%, นิวแคลิโดเนีย 0.6% และโอมาน 0.80% ขณะที่ประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในโลก คือ เลบานอน 230.0% ตามด้วยอาร์เจนตินา 124.0%, ซิมบับเว 77.2%, ตุรกี 58.94%, ซูรินัม 53.8% เป็นต้น
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อไทยเพิ่มขึ้นมาจากราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่กลุ่มอาหารสดราคาทรงตัว ประกอบกับฐานราคาเดือน ส.ค.65 อยู่ในระดับสูง จึงทำให้เงินเฟ้อเดือน ส.ค.66 สูงไม่มากนัก ขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศคู่ค้าสำคัญที่ชะลอตัว และการใช้มาตรการทางการเงินที่เข้มงวดขึ้นของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมถึงมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาล ทั้งลดค่าไฟฟ้างวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.66 เหลือหน่วยละ 3.99 บาท ลดน้ำมันดีเซลลิตรละ 2 บาท การลดราคาสินค้านาน 3 เดือนตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค.66 อาจทำให้เงินเฟ้อทรงตัวและเพิ่มขึ้นไม่มาก สนค.คาดว่าเงินเฟ้อทั้งปี 66 จะอยู่ที่ 1.0-2.0% มีค่ากลางที่ 1.5%.
เราคือที่ปรึกษาการเงินให้คำปรึกษาด้านการบริหารความเสี่ยง
การบริหารจัดการความมั่งคั่ง
การประกันชีวิต
ประกันชีวิตควบการลงทุนในกองทุนรวมหุ้น ตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก
การวางแผนภาษี การประกันภัย
ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มากด้วยประสบการณ์ที่จะนำพาท่านสู่ความสำเร็จ
สนใจร่วมงานกับเราเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นที่ปรึกษาทางการเงินมืออาชีพได้ทันที
:
E: moneyandwealthplus@gmail.com
T: 063-282-3651
รวมช่องทางสื่อสารของเรา