หลังจาก นายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ประกาศเดินหน้า แก้หนี้ทั้งระบบ และยกเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อ ปลดล็อกชีวิตคนไทย โดยมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับมาตรการแก้หนี้ของรัฐบาลมาแล้ว 3 ครั้ง 3 คราว ได้แก่ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน, 8 ธันวาคม และวานนี้ 12 ธันวาคม พบมีลูกหนี้หลายกลุ่มที่จะได้รับการช่วยเหลือ
รวมถึง เมื่อ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทย ยังเริ่มเปิดรับลงทะเบียนหนี้นอกระบบ เพื่อใช้ในการติดตามเจ้าหนี้และลูกหนี้ ให้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยต่อไปด้วย
ทั้งนี้ ThairathMoney สรุป แนวทางช่วยเหลือลูกหนี้ หลากหลายกลุ่มด้วยกัน ที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรการแก้หนี้ดังกล่าว ทั้งที่เป็นมาตรการที่ ครม. ได้เห็นชอบไปแล้ว เช่น การพักหนี้เกษตรกร, มาตรการที่รัฐบาล ระบุว่า สามารถดำเนินการขยายผลได้ทันที เช่น เรื่องหนี้ครู หนี้ข้าราชการ หนี้บัตรเครดิต หนี้เช่าซื้อรถยนต์ หรือ มอเตอร์ไซค์ ดังต่อไปนี้
แก้หนี้กลุ่มเกษตรกร
หนี้นักศึกษา (หนี้ กยศ.)
แนวทางแก้หนี้ครู และข้าราชการ
แก้หนี้บัตรเครดิตกับรัฐบาล
หนี้ สินเชื่อรถยนต์ และ รถจักรยานยนต์
แก้หนี้กลุ่มธุรกิจ SME (วิสาหกิจขนาดกลางและย่อม)
หนี้นอกระบบ
หนี้เสีย ( NPL)
อย่างไรก็ตาม รัฐบาล ระบุว่า แนวทางแก้หนี้ข้างต้นทั้งหมดเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ในระยะเร่งด่วน เพื่อต่อลมหายใจให้ลูกหนี้ทุกกลุ่ม ส่วนในระยะยาว ต้องแก้ปัญหาในระดับโครงสร้าง
เช่น การให้บริการสินเชื่อให้เหมาะสมและเป็นธรรม สะท้อนความเสี่ยงของลูกหนี้มากขึ้น, มีมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคที่เหมาะสม และป้องกันปัญหาการก่อหนี้เกินศักยภาพ ซึ่งการให้สินเชื่อ จะพิจารณาข้อมูลอื่นนอกเหนือจากประวัติการชำระสินเชื่อ เช่น ประวัติการชำระค่าน้ำ หรือค่าไฟของลูกหนี้ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ง่ายขึ้น
การผลักดันให้สหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน รายงานข้อมูลเครดิตไปยัง NCB เพื่อให้ผู้ให้สินเชื่อทุกรายสามารถประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ และการจัดการบุริมสิทธิในการตัดเงินเดือนของลูกหนี้ที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อชำระหนี้กับผู้ให้สินเชื่อได้อย่างเหมาะสม