นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เบื้องต้นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้เสียของประชาชน กรณีติดเครดิตบูโร หรือติดแบล็กลิสต์ของบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ทำให้ประชาชนไม่สามารถขยับขยายการยื่นขอสินเชื่อเพิ่มเติมได้อีก เนื่องจากระยะเวลาการติดเครดิตบูโรยาวนานถึง 8 ปี ดังนั้น จึงได้มอบโจทย์ให้ ธปท.ไปช่วยหาวิธีการที่จะผ่อนปรนให้ลูกหนี้ ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 4 ล้านบัญชี
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด หรือลูกหนี้รหัส 21 ให้หลุดจากการติดเครดิตบูโรได้เร็วขึ้น เพราะสามารถแยกประเภทลูกหนี้ได้ง่ายกว่า ดังนั้นจึงขอฝาก ธปท.แยกประเภทลูกหนี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือผ่อนเงื่อนไขกฎเกณฑ์การติดเครดิตบูโร เช่น จากเดิม 8 ปี อาจจะเหลือ 6 ปี แต่มีเงื่อนไข เพื่อให้โอกาสธุรกิจได้ขยับขยายการผลิต เพราะธุรกิจที่ติดเครดิตบูโร เหมือนติดคุก ไม่สามารถยื่นขอสินเชื่อใดๆได้เลย ทั้งที่ธุรกิจยังคงดำเนินต่อ ไม่ได้ปิดกิจการ เพียงแต่ต้องการเม็ดเงินมาเสริมสภาพคล่อง
“การติดเครดิตบูโรทำให้ไม่สามารถยื่นกู้สินเชื่อใดๆได้เลย เพราะจะติดบัญชีเครดิตบูโร 5 ปี และหลังจากหลุดเครดิตบูโรแล้ว ข้อมูลลูกหนี้ยังต้องถูกจัดเก็บประวัติในเครดิตบูโรอีก 3 ปี รวม 8 ปี ทำให้หมดโอกาสยื่นกู้สินเชื่อใหม่ ถือว่านานมาก ดังนั้น จึงอยากให้ ธปท.กลับไปพิจารณาแล้วนำมาหารือกันอีกครั้งในคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ”.
cr.https://www.thairath.co.th/